วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2551













บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มุ่งศึกษาการใช้ภาษาในบทเพลงไทยลูกทุ่งของ ไมค์ ภิรมย์พรในด้านการใช้คำและโวหารภาพพจน์ ผลการศึกษาพบว่าเนื้อหาในบทเพลงไทยลูกทุ่งของ ไมค์ ภิรมย์พร มีเนื้อหาได้แก่ เนื้อหาเกี่ยวกับความรัก เนื้อหาเกี่ยวกับการให้กำลังใจ เนื้อหาเกี่ยวกับการสะท้อนปัญหาสังคม เนื้อหาเบ็ดเตล็ด ส่วนทางด้านแนวคิดในบทเพลงไทยลูกทุ่งของ ไมค์ ภิรมย์พรพบว่ามีแนวคิดได้แก่ แนวคิดเกี่ยวกับความรัก ได้แสดงแนวคิดว่าความรักเป็นกำลังใจของมนุษย์ การมีความรักต่างฐานะมักไม่สมหวัง แนวคิดเกี่ยวกับการทำความดี ได้แสดงแนวคิดว่ามนุษย์ควรคิดและทำในสิ่งที่ดีงาม มนุษย์ควรพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ แนวคิดเกี่ยวกับสังคม ได้แสดงแนวคิดว่าสังคมเมืองโหดร้าย ประชากรในชนบทมีคุณภาพชีวิตที่ไม่ดี แนวคิดเกี่ยวกับการให้กำลังใจ ได้แสดงแนวคิดเกี่ยวกับ การให้กำลังใจคนทำงาน การให้กำลังใจคนใช้ชีวิต การใช้คำในบทเพลงไทยลูกทุ่งของ ไมค์ ภิรมย์พร พบมีการใช้คำ ได้แก่การใช้คำภาษาถิ่น เช่น คำภาษาถิ่นอีสานและการใช้คำภาษาถิ่นใต้ การใช้คำภาษาต่างประเทศ ได้แก่ คำภาษาอังกฤษ และคำภาษาจีน การใช้อักษรย่อ การตัดคำ การใช้คำซ้ำ การใช้คำซ้อน นอกจากนี้ยังพบการใช้โวหารภาพพจน์ ได้แก่ อุปมาโวหาร อุปลักษณ์โวหาร อติพจน์โวหาร สัทพจน์โวหาร สัญลักษณ์

วันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2551

เชียร์กีฬาเชียงแสน


สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอเชียงแสน
ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ห่างจากเชียงราย 59 กม. โดยแยกจากทางหลวงหมายเลข 110 ที่ อ.แม่จัน ไปตามทางหลวงหมายเลข 1016 ประมาณ 31 กม.เชียงแสนเป็นเมืองเก่าแก่มากแห่งหนึ่งในภาคเหนือ เดิมชื่อ "เวียงหิรัญนครเงินยาง" ปัจจุบันยังมีซากกำแพงเมืองสองชั้นอยู่ทางด้านหน้าก่อนเข้าตัวเมือง
......................................................................
พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเชียงแสน
ตั้งอยู่ในเขตกำแพงเมือง เป็นที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุที่ได้จากบริเวณเชียงแสนและพื้นที่ใกล้เคียง เช่น ลวดลายปูนปั้นฝีมือล้านนา พระพุทธรูปและศิลาจารึกจากเชียงแสนและจากพะเยา พร้อมทั้งให้ข้อมูลทางด้านวิชาการเกี่ยวกับแหล่งโบราณคดีการตั้งถิ่นฐานของชุมชน และประวัติการสร้างเมืองเชียงแสน นอกจากนี้ยังมีการจัด แสดงศิลปะพื้นบ้านของ ชาวไทยใหญ่ ไทยลื้อ และชาวเขาเผ่าต่างๆ ได้แก่ เครื่องเขิน เครื่องดนตรี เครื่องประดับ อุปกรณ์การสูบฝิ่น เป็นต้น เปิดทำการตั้งแต่เวลา ๙.๐๐- ๑๖.๐๐ น. ทุกวัน เว้นวันจันทร์ อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์



......................................................................
วัดพระธาตุจอมกิตติ
อยู่ในท้องที่อำเภอเชียงแสน ตั้งอยู่บนเนินเขานอกกำแพง มีทางแยกซ้ายมือเข้าไปประมาณ ๑.๗ กม. สร้างสมัยเดียวกับ พระธาตุจอมทองของเชียงราย เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ในเจดีย์ก่อเหลี่ยมไม้สิบสอง สมัยเชียงแสน


......................................................................
พระธาตุดอยปูเข้า
แยกจากเส้นทางเชียงแสน-สบรวก ก่อนถึงสามเหลี่ยมทองคำเล็กน้อย รถยนต์สามารถขึ้นไปถึงยอดเขา หรือจะเดินขึ้นบันได้ก็ได้ พระธาตุนี้สร้างขึ้นบนดอยเชียงเมื่ยงริมปากน้ำรวก เมื่อ พ.ศ. 1302 ในสมัยพระยาลาวเก้าแก้วมาเมือง กษัตริย์องค์ที่ 2 แห่งเวียงหิรัญนครเงินยางโบราณสถานประกอบด้วยลวดลายปูนปั้น นอกจากนี้บนดอยเชียงเมี่ยงยังสามารถมองเห็นสามเหลี่ยมทองคำได้ชัดเจน


......................................................................
วัดพระธาตุเจดีย์หลวง
ตั้งอยู่ติดกับพิพิธภัณฑ์ สถานแห่งชาติเชียง แสนด้านทิศตะวันออก สร้างโดยพระเจ้าแสนภู เมื่อประมาณกลางพุทธศตวรรษที่ ๑๙ โบราณสถานประกอบด้วย เจดีย์ประธาน ทรงระฆังแบบล้านนา สูง ๘๘ ม. ฐานกว้าง ๒๔ ม. เป็นเจดีย์ใหญ่ที่สุดในเชียงแสน นอกจากนี้มี พระวิหาร ซึ่งเก่าแก่มากพังทลายเกือบหมดแล้ว และ เจดีย์ราย แบบต่างๆ ๔ องค์


......................................................................
วัดป่าสัก
อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอเชียงแสนประมาณ ๑ กม. ในเขต ต.เวียง พระเจ้าแสนภูทรงสร้างเมื่อ พ.ศ. 1838 และให้ปลูกต้นสักล้อมกำแพง 300 ต้น วัดนี้จึงได้ชื่อว่า "วัดป่าสัก" ภายในวัดมี โบราณสถานที่สำคัญคือ เจดีย์ประธานทรงมณฑปยอดระฆัง ตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้นอันวิจิตร มีฐานกว้าง 8 ม. สูง 12.5 ม. เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุกระดูกตาตุ่มข้างขวาจากเมืองปาฏลีบุตร


......................................................................
วัดพระธาตุผาเงา
อยู่ห่างจากอำเภอเชียงแสนไปตามเส้นทางเชียงแสน-เชียงของ ประมาณ 4 กม. อยู่ตรงข้ามโรงเรียนสบคำ เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมมีเนื้อที่ 143 ไร่ มีเจดีย์ทรงระฆังขนาดเล็กตั้งอยู่บนหินก้อนใหญ่ วิหารปัจจุบันสร้างทับซากวิหารเดิม บนยอดเขาข้างหลังวัด เป็นที่ตั้งของพระบรมพุทธนิมิตรเจดีย์ที่มองเห็นทิวทัศน์สวยงามได้โดยรอบ


......................................................................
วัดเจดีย์เจ็ดยอด
อยู่เหนือวัดพระธาตุผาเงาขึ้นไปบนดอยประมาณ 1 กม. ตัววัดหักพังหมดแล้ว เหลือแต่เพียงซากอิฐเก่า ๆ ดูแทบไม่เห็นรูปร่างแล้ว อาจกล่าวได้ว่าวัดพระธาตุผาเงาและวัดเจดีย์เจ็ดยอดอยู่บนเขาลูกเดียวกัน มีบริเวณต่อเนื่องอย่างกว้างขวาง ร่มรื่นด้วยไม้ใหญ่ สมกับเป็นสถานปฏิบัติธรรม


......................................................................
สบรวก
(ดินแดนแห่งสามเหลี่ยมทองคำ) ห่างจากที่ว่าการอำเภอเชียงแสนไปตามถนนเลียบแม่น้ำโขงระยะทาง ๙ กม. ซึ่งเป็นบริเวณที่แผ่นดินของ ๓ ประเทศได้มาพบกัน คือ ไทย พม่า ลาว โดยมีแม่น้ำรวกกั้นอาณาเขตระหว่างไทยและพม่า และแม่น้ำโขงกั้นอาณาเขตระหว่างไทยและลาว ครั้งหนึ่งที่นี่เคยเป็นไร่ฝิ่นที่ใหญ่โตมาก แต่ปัจจุบันไม่มีไร่ฝิ่นอีกแล้ว เหลือคงแต่ทิวทัศน์ที่เงียบสงบของลำน้ำและเขตแดนของ 3 ประเทศเท่านั้น ที่นี่ยังมีบริการเรือให้เช่าเพื่อเดินทางไปชมทิวทัศน์บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ ใช้เวลา 20 นาที และยังสามารถเช่าเรือจากสบรวกไปยังเชียงแสนและเชียงของได้ ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีและ 1 ชม.ครึ่งตามลำดับ


......................................................................
วัดสังฆาแก้วดอนหัน
มีประวัติว่า สร้างโดยพรเจ้าลวจักราช เมื่อต้นพุทธศตวรรษที่ 12 แต่หลักฐานที่พบแสดงว่ามีอายุอยู่ในช่วงไม่เกินพุทธศตวรรษที่ 21 กรมศิลปากรได้ขุดพบหลักฐานที่พบแสดงว่ามีอายุอยู่ในช่วงไม่เกิน พุทธศตวรรษที่ 21 กรมศิลปากรได้ขุดพบภาพขูดขีดบนแผ่นอิฐเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระชาติของพระพุทธเจ้า ตอนพระเวสสันดรชาดก เช่น พระเวสสันดรเดินป่า ชูชกเฝ้าพระเวสสันดร เป็นต้น นอกจากนี้ยังพบชิ้นส่วนจิตรกรรมฝาผนังที่หลุดพังมาจากผนังวิหารมีสภาพแตกหัก แต่ยังคงเหลือลักษณะของสีและตัวภาพซึ่งใช้สีชาดและสีแดงเพียง 2 สี นับได้ว่าเป็นการค้นพบที่สำคัญทางวิชาการอย่างยิ่ง
......................................................................
น้ำตกบ้านไร่
อยู่บ้านไร่ หมู่ที่ 9 ต.บ้านแซว ห่างจากที่ว่าการ อ.เชียงแสนไปทางทิศใต้ ระยะทางประมาณ 15 กม.เศษ โดยเส้นทางรพช. สายบ้านเวียง-เชียงของ (สายเดียวกันกับไปพระธาตุผาเงา) เป็นน้ำตกธรรมชาติตกจากดอยผาแตก บริเวณน้ำตกเป็นป่าร่มรื่น
......................................................................
วัดพระเจ้าล้านทอง
อยู่ในเขตกำแพงเมือง เจ้าทองงั่ว ราชโอรสพระเจ้าติโลกราชเป็นผู้สร้างเมื่อ พ.ศ. 2032 ได้ทรงหล่อพระพุทธรูปองค์หนื่งหนักล้านทอง (1,200 กก.) ขนานนามว่า พระเจ้าล้านทอง เป็นพระประธานหน้าตักกว้าง 2 ม. สูง 3 ม.เศษ ในวัดนี้ยังมีพระพุทธรูปอีกองค์หนึ่งได้มาจากวัดทองทิพย์ซึ่งเป็นวัดร้าง เรียกกันว่า พรเจ้าทองทิพย์เป็นพระพุทธรูปทองเหลือง พระพักตร์งดงามมาก ลักษณะเป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย หน้าตักกว้าง 1 ศอก 15 นิ้ว สูง 2 ศอก 10 นิ้ว
......................................................................
ทะเลสาบเชียงแสน
เป็นอ่างเก็บน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ที่ตำบลโยนก ในเขตอำเภอเชียงแสน ตามทางสายเชียงแสน-แม่จันไปประมาณ ๕ กม. แยกซ้ายตรงกม.ที่ ๒๗ เข้าไปอีก ๒ กม. ในฤดูหนาวจะมี ฝูงนกน้ำอพยพมาอาศัย ริมทะเลสาปมีร้านอาหารและที่พัก


วันพุธที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2551

อาหารช่วยให้อารมณ์ดี





บางครั้งเรารู้สึกขาดความสุข อันเนื่องมาจากการขาดอาหารบางชนิด ที่จะช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนเซโรโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุข ลองทำความรู้จักกับอาหารที่จะช่วยให้คุณมีความสุขยิ่งขึ้นดูสิคะ
วานิลลา ไม่ว่าจะเป็นวนิลลาในขนมหรือพุดดิ้งก็อร่อยลิ้นทั้งนั้น แถมยังมีกลิ่นวานิลลาหอมยั่วน้ำลายอีกด้วย และที่สำคัญก็คือ มันช่วยให้อารมณ์ร่าเริงแจ่มใส มีความสุข วานิลลาจึงเปรียบเสมือน ยาดับความโกรธและความทุกข์กังวล บำรุงเส้นประสาท และถ้าจะให้ได้ผลจริงๆ ก็ต้องกินวานิลลาของแท้
ช็อกโกแลต ในช็อกโกแลตมีสารอาหารต่างๆ เกือบ 400 ชนิด โดยเฉพาะช็อกโกแลตดำมีประโยชน์กว่าช็อกโกแลตนมถึงสามเท่า นอกจากนี้ช็อกโกแลตขมหนึ่งห่อ ยังมีคาเฟอีนมากเท่ากับกาแฟหนึ่งถ้วย ซึ่งจะช่วยให้กระปรี้กระเปร่า
พริกมีสารแคปไซซิน ซึ่งจะช่วยให้เรามีความสุขอารมณ์ดี คลายเครียด ผ่อนคลาย และกระตือรือร้น
ผักชี ช่วยกระตุ้นให้อารมณ์ดี น้ำหอมระเหยและสีของผักชี จะส่งผลต่อระบบศูนย์ประสาท ดังนั้นจึงควรเติมผักชีในอาหารที่เรารับประทาน เช่น แกงจืด ยำ ฯลฯ
อาหารทะเล มีโปรตีนทริปโตฟาน (Trytophan) มีวิตามินและเกลือแร่ เช่น โพแทสเซียม และแมกนีเซียม หากกินหอยแค่ 5-6 ตัว ก็สามารถช่วยให้อารมณ์ดีได้ เพราะมันมีผลต่อพลังทางจิต และช่วยให้ประสาทที่ตึงเครียดผ่อนคลายลง
ก๋วยเตี๋ยว ไม่ว่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กหรือเส้นใหญ่ ก็มีคาร์โบไฮเดรตสูงทั้งนั้น ซึ่งมันจะช่วยผลิตฮอร์โมนแห่งความสุขในสมอง จึงช่วยให้เรารู้สึกมีความสุขในสมอง จึงช่วยให้เรารู้สึกมีความสุข อารมณ์ดี ซึ่งชาวกรีกโบราณรู้มานานแล้ว นม หากฮอร์โมนเซโรโทนินซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุขลดลง จะทำให้เรารู้สึกถึงพลังที่ถดถอย อารมณ์เสีย แต่หากได้กินผลิตภัณฑ์จากนม จะช่วยให้ร่างกายสร้างฮอร์โมนแห่งความสุขมากขึ้น
กล้วย มีคุณค่าทางอาหารเช่นเดียวกับสับปะรด ซึ่งมีฮอร์โมนเซโรโทนิน แต่ไม่อาจพิสูจน์ได้ว่า ฮอร์โมนจากกล้วยจะให้ผลดีเช่นเดียวกับที่ร่างกายสร้างขึ้นเองหรือไม่ แต่กล้วยก็เป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่ง และมีโปรตีนทริปโตฟาน ที่จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างฮอร์โมนเซเรโทนิน ซึ่งจะช่วยให้อารมณ์ดี
มันฝรั่ง ให้พลังงานเหมือนโปรตีน แร่ธาตุและวิตามิน โดยเฉพาะมันฝรั่งมีวิตามินบี 6 สูง ซึ่งจะช่วยควบคุมการเผาผลาญโปรตีนในร่างกาย และช่วยปรับให้ฮอร์โมนสมดุล และช่วยให้ประสาทสงบ มีความสมดุล ไม่ขึ้นๆ ลงๆ แต่ควรเป็นมันผรั่งต้มหรือบด หรือมันฝรั่งในแกงมัสมั่นก็ได้ หากเป็นมันฝรั่งทอดกรุบกรอบจะทำให้อ้วนบั่นทอนสุขภาพมากกว่า

ปรารถนาความสุขที่แท้จริง







แม้มวลมนุษยชาติจะมีเชื้อชาติ ศาสนา ภาษา วัฒนธรรม และเผ่าพันธุ์ที่ต่างกัน แต่ล้วนมีความปรารถนาที่จะพบกับความสุขที่แท้จริง พบกับความสมบูรณ์พร้อมของชีวิต เมื่ออยู่ในโลกก็ปรารถนาที่จะอยู่อย่างมีความสุข ทุกคนปรารถนาเช่นนั้น* หากแต่ยังไม่มีใครทราบว่าสิ่งที่ตนปรารถนานั้นจะเป็นไปได้อย่างไร ต้องเริ่มต้น ณ จุดไหน และจะเข้าไปให้ถึงจุดนั้นได้อย่างไร เมื่อยังไม่รู้ จึงแสวงหากันตลอดมา ตามแต่สติปัญญาและอัธยาศัยของตนจะอำนวย แต่ตราบใดที่สติปัญญายังไม่พร้อมสมบูรณ์ ยังไม่บริสุทธิ์สะอาดจริง การเสาะแสวงหาย่อมผิดที่ผิดหนทาง มนุษย์จึงยังหาจุดแห่งความสำเร็จที่ตนปรารถนาไม่พบ เป็นเสมือนการหาน้ำจากก้อนหิน หรือหาปลาในทะเลทราย แต่อย่างไรก็ตาม ความฝันนี้ก็ยังคงอยู่ในใจลึกๆ ของชนทุกเชื้อชาติ ศาสนา และเผ่าพันธุ์อย่างไม่เสื่อมคลาย*"สุขกามานิ ภูตานิ สรรพสัตว์ทั้งหลายที่เกิดมาแล้วต่างก็ปรารถนาความสุขด้วยกันทั้งสิ้น" (พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่ม 42 หน้า 74)

สาระดีดี





บทความดีๆ สำหรับคนมีทุกข์

คุณเคยรู้สึกไหม ว่าชีวิตช่างลำบาก คุณไม่อยากอยู่ในสภาพแวดล้อมอย่างที่เป็นอยู่ คุณรู้สึกว่า ชีวิตนั้นเป็นทุกข์ อาชีพการงานไม่ได้ดั่งใจ อะไร ๆ ก็ผิดพลาดไปหมด? รื่องราวต่อไปนี้ อาจจะเปลี่ยนแปลง ทัศนคติที่คุณมีต่อชีวิตคุณได้ ผมสนทนากับเพื่อนคนหนึ่ง ถึงแม้ว่า เขาจะทำงานสองอย่าง รายได้แต่ละเดือนหักลบรายจ่ายแล้วยังเหลือแค่พันกว่า แต่เขาก็มีความสุขมากแล้ว ผมแปลกใจมากที่เขามีความสุขขนาดนั้น พราะเขามีรายได้น้อย ต้องประหยัดมัธยัสถ์จึงจะพอมีเหลือเลี้ยงดูคุณพ่อคุณแม่สูงอายุ พ่อตาแม่ยาย ภรรยาและลูกสาวอีกสองคน ไหนจะค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จุกจิกภายในครอบครัว เขาอธิบายให้ฟังว่า เป็นเพราะหลายปีก่อนเขาได้เห็นเหตุการณ์บางอย่างที่ประเทศอินเดีย ขณะนั้นเขา ประสบปัญหาที่สาหัสมาก สภาพจิตใจตกต่ำจึงไปเที่ยวอินเดียเพื่อให้สบายใจขึ้น เขาได้เห็นกับตา ผู้หญิงชาวอินเดียคนหนึ่ง ถือมีดอีโต้ตัดแขนขวาของลูกตัวเอง สายตาที่หมดหวังของผู้หญิงคนนั้น และเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดของเด็กอายุสี่ขวบ จนบัดนี้ยังวนเวียนอยู่ในใจเขามิรู้ลืม คุณอาจจะถามว่า ทำไมแม่คนนั้นจึงต้องทำเช่นนี้ ? เป็นเพราะลูกของเธอซุกซนเกินไปหรือเปล่า ? หรือเป็นเพราะแขนของเด็กติดเชื้อ ? ไม่ใช่ ที่แท้ทำไปเพื่อให้เด็กสามารถไปขอทานตามถนน แม่ผู้สิ้นหวังคนนั้นจงใจทำให้ ลูกตัวเองพิการ เพื่อเขาสามารถออกขอทานตามท้องถนนได้ เพื่อนของผมคนนี้ตกใจแทบช๊อก ขนมปังในมือของเขาที่เพิ่งกินได้ครึ่งก้อนตกหล่นลงพื้น ทันทีทันใดก็มีเด็กๆ ห้าหกคนกรูกันเข้ามา แย่งชิงขนมปังที่เลอะทรายบนพื้น เหมือนกับปฏิกิริยาอัตโนมัติเวลาผจญกับความหิวโหย เขาตกใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว ไกด์ของเขาขับรถพาเขาไปยังร้านขนมปังที่ใกล้ที่สุด เขาเข้าไปในสองร้านของละแวกนั้น ขอซื้อขนมปังทั้งหมดในร้าน เจ้าของร้านขนมปังแปลกใจมาก แต่ก็ยินดีขายขนมปังทั้งหมดให้เขา เขาใช้เงินทั้งหมดไม่ถึงหนึ่งร้อยเหรียญ ซื้อขนมปังมาประมาณสี่ร้อยกว่าก้อน (ตกก้อนละไม่ถึง 25 เซน) แล้วใช้อีกหนึ่งร้อยเหรียญซื้อของใช้ประจำวัน และแล้ว เขาก็นั่งบนรถบรรทุกที่บรรทุกขนมปังไว้เต็มคันรถ ขับไปบนถนน ขณะที่เขาแจกจ่ายขนมปังและของใช้ประจำวันให้กับเด็ก ๆ ซึ่งพิการเป็นส่วนใหญ่นั้น พวกเขาล้วนโค้งคำนับให้ด้วยความดีใจ นั่นเอง เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาคิดได้ว่า ทำไมคนเราจึงสามารถละทิ้งศักดิ์ศรีของตนเองเพียงเพื่อชิ้นขนมปัง ราคาไม่ถึง 25เซน เขาเริ่มบอกตนเองว่าตนเองนั้นโชคดีแค่ไหน เขามีร่างกายครบสามสิบสอง มีอาชีพการงาน มีครอบครัว มีโอกาสบ่นว่าอาหารชิ้นไหนดี อาหารชิ้นไหนไม่อร่อย มีโอกาสสวมใส่เสื้อผ้า มีโอกาสครอบครองสิ่งของมากมายที่คนเหล่านี้ไม่มี ตอนนี้ ผมเริ่มคิดได้และตระหนักได้ว่า ชีวิตของผมมันย่ำแย่จริงหรือ ? บางทีมันอาจไม่ได้ย่ำแย่ขนาดนั้นก็ได้ คุณละ ? บางทีเมื่อครั้งหน้าคุณรู้สึกว่า ชีวิตของตนกำลังย่ำแย่ ลองคิดถึงเด็กคนที่ต้องเสียแขนเพื่อเป็น ขอทานคนนั้นดูสิ ! “ความรู้สึกพอ” ไม่ใช่มาจากการเติมเต็มสิ่งที่คุณต้องการ แต่มาจากการตระหนักว่า คุณมีมากมายและเพียงพอ เมื่อประตูแห่งความสุขปิดลง ประตูอีกบานหนึ่งก็จะเปิดออก แต่บ่อยครั้งเรามัวแต่จ้องบานประตูที่ปิดลงเท่านั้น ไม่ได้สังเกตเห็นประตูอีกบานหนึ่งที่เปิดออกเพื่อเรา จริงอยู่ พวกเรามักจะรู้ว่าตนเองมี ก็ต่อเมื่อเราสูญเสียมัน แต่พวกเราก็ต้องคอยจนกว่าของสิ่งนั้นมาถึง จึงจะรู้ตัวว่า เราไม่มีมัน การมอบความรักทั้งหมดให้กับผู้อื่น มิได้หมายความว่า เราจะได้รับความรักตอบกลับมาอย่างเท่าเทียมกัน อย่าหวังว่า รักผู้อื่นแล้วผู้อื่นจะรักตอบ จงสนใจแค่ให้ความรักนั้น เติบโตขึ้นในใจพวกเขา แต่ถ้าไม่เติบโตขึ้นเลยก็จงพอใจกับความรักที่เติบโตขึ้นในใจของคุณเอง หนึ่งนาทีจึงจะทำลายคน ๆ หนึ่งได้ หนึ่งชั่วโมงจึงจะชอบคน ๆ หนึ่งได้ หนึ่งวันจึงจะรักคนๆ หนึ่งได้ แต่ต้องใช้เวลาตลอดชั่วชีวิต จึงจะลืมคน ๆ หนึ่งได้ จงอย่ามองเพียงรูปภายนอก เพราะสักวันมันจะหลอกคุณ จงอย่ามองแค่ความร่ำรวย ทรัพย์สมบัติ เพราะสักวันมันจะซีดจางลง หาใครสักคนที่ยิ้มให้คุณ เพราะเมื่อมีรอยยิ้ม จะทำให้อารมณ์ของคุณดีขึ้น หาใครสักคนที่ทำให้คุณอมยิ้มได้จากใจจริง บางครั้งเมื่อคุณคิดถึงใครสักคน ความคิดถึงนั้นอาจถึงขั้นให้คุณคว้าตัวเขาออกมาจากความฝัน โอบกอดตัวเขาเอาไว้ ไล่ตามความฝันของคุณเอง ไปยังที่ ๆ คุณอยากไป เป็นอย่างคนที่คุณอยากเป็น เพราะคุณมีเพียงชีวิตเดียว ซึ่งหมายถึง...มีเพียงโอกาสเดียวในการทำสิ่งที่คุณอยากทำ

วันพุธที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2551

กลอน



ลมหายใจมีไว้ให้ความหวัง


สร้างพลังดวงจิตอย่าคิดถอย


อย่าอยู่อย่างชีวิตที่เลื่อนลอย


โหยละห้อยเสียกาลและเวลา


อุปสรรคเข้าเผชิญจงเดิน


สู้ยอมรับรู้ด้วยใจที่อาจหาญ


ตรึงและตรองแก้ไขอย่านิ่งนาน
รีบประสานเข้มแข็งด้วยแรงใจ

*********************************



อนาคตยังอีกไกล


ฝันไว้อย่างไรขอให้ไปให้ถึง


ในยามท้อยังมีเราอีกคนหนึ่ง


เราคนนี้ซึ่งคอยให้กำลังใจ


แต่ละคนต่างก็มีฝัน


จะต่างกันก็ตรงที่จุดหมาย


สิ่งที่ฝันใช่ว่าจะไปถึงได้ง่ายดาย


ยังต้องการกำลังใจจากหลายคน

*******************************************

แม่รักลูกถูกใจทั้งชายหญิง

แม่รักจริงปรารถนาฟ้าส่งให้

แม่รักเจ้าเฝ้าเอ็นดูรู้แก่ใจ

แม่รักมากลำบากกายใจยินดี

ลูกรักแม่เหมือนแม่รักเจ้า

สักนิดลูกรักษ์จิตใจแม่แผ่ราศี

ลูกรักแม่แต่น้อยคอยคนดี

ลูกรักแม่เพียงแค่นี้แม่ดีใจ

อย่าลืมรักแม่ เหมือนแม่รักเรา นะลูกแม่

*********************************************

กลอนวันแม่

พระคุณแม่ยิ่งใหญ่ไพศาลนัก

ด้วยความรักเมตาอาทรเหลือ

เฝ้าถนอมการุณช่วยจุนเจือ

สร้างเลือดเนื้อ สร้างวิญญาน

สานความดีสิบนิ้วลูกประนมเหนือศรีษะ

ขอพระร่างโรจนาฯเหนือราศีใ

ห้แม่สบเสพสุขทุกสิ่งมี

ล้วนเป็นที่เกษมสันต์นิรันดร์เทอญ

************************************************

ใกล้ถึงวันแม่แล้วมีบทความดีๆมาบอก

“แม่” คือคนที่เราต้องคิดถึงเป็นอันดับแรก
เวลาไม่มีเงิน………..คนแรกที่คิดถึงคือ พ่อและ แม่

แต่พอมีเงิน………….คนแรกที่คิดถึงคือแฟน และเพื่อน
อยากได้รถ………….คนแรกที่คิดถึงคือ พ่อและ แม่

แต่พอมีรถ…………..คนแรกที่จะไปรับคือแฟน และเพื่อน
ร้านอาหารหรูๆ บรรยากาศคลาสิค…..มีไว้สำหรับแฟนและเพื่อน

อาหารบนโต๊ะที่บ้าน…………………..มีสำหรับพ่อและแม่
โรงหนัง ห้างสรรพสินค้า…….มีไว้สำหรับแฟน และเพื่อน

ทีวี และสวนหน้าบ้าน………..มีไว้สำหรับพ่อ และแม่
พ่อ และแม่ คิดบัญชีค่าใช้จ่ายก่อนนอน..

เพื่อความอยู่รอดลูกนอนคุยโทรศัพท์ เล่นเนต ก่อนนอน…เพื่อให้หลับฝันดี
เวลาเรามีความสุข…………มักจะมองหาแฟน และเพื่อน

เวลาเรามีความทุกข์……….คนที่กังวล หดหู่ และเศร้าสลดใจ คือพ่อ และแม่
เวลาประสบความสำเร็จ……..เรามักมองหาแฟนและเพื่อน

เพื่อนัดฉลองและสังสรร…..แต่คนที่ดีใจที่สุดคือพ่อและแม่………แต่กลับกลายเป็นคนที่เรามองข้ามไป
ลูกไปรื่นเริงตามโรงหนัง เธค ผับ โต๊ะสนุ๊ก ฯลฯ…….

พ่อและแม่ กำลังทำงาน หรือนอนหลับเก็บแรงไว้ทำงานหาเงินในวันรุ่งขึ้น

เพื่อแลกความสุขของลูก อยากให้ลูกเรียนสูงๆ
เวลาแต่งงาน…….คนที่เป็นธุระหาสินสอดทองมั่นคือพ่อและแม่………

คนที่มีความสุขคือลูก
พ่อ และแม่ตำหนิ ตักเตือน บางครั้งเต็มไปด้วยอารมณ์…………

เพื่อให้ลูกได้ดีแต่ลูกคิดว่าสิ่งที่ พ่อและแม่พูด…….เป็นแค่เรื่องไร้สาระ
พ่อ และแม่…คือผู้ฝ่าฟันปัญหาเป็นร้อยพันประการ

เพื่อลูกแต่พอลูกมีปัญหา….มักคิดได้แค่ ท้อถอย หดหู่ หรืออยากตาย!!!!
พ่อ และแม่คือผู้ที่ปกป้อง และยืนเคียงข้างลูก

จวบจนชีวิตจะหาไม่ลูกกำลังคิดถึงสิ่งใด…???
เดือนนี้…เดือนแห่งผู้ที่เราเรียกว่า…”แม่”…มาตั้งแต่ยังแบเบาะคำว่า “แม่” อาจเป็นคำแรกที่เราพูดได้

ตั้งแต่เกิด
ฉันเคยผ่าน เหตุการณ์ที่เขียนมา ที่เหลือคืองานแต่งงานและก็คงจะไม่รบกวนท่านแล้ว…จนวันหนึ่งมานั่งทบทวนเหตุการณ์ต่างๆ……..หลายๆเหตุการณ์…ผมนึกถึงแต่ตัวเองและไม่มีอะไรมาเตือนสติ… ตั้งแต่วันนั้น จนวันนี้และตลอดไป “แม่” คือคนที่เราต้องคิดถึงเป็นอันดับแรก









สวัสดีค่ะ

สวสดีค่ะทุก ๆ ท่าน